เกม Metroid Dread ตำนานเกม Metroidvania

เดี๋ยวนี้กระแสหนทางเกมที่ค่ายเล็กๆนิยมสร้างอาจจะหนีไม่พ้น Metroidvania
เพราะเหตุว่าใช้ทุนสร้างไม่มากมายไม่ย้ำกราฟิก รีวิวเกมส์มาใหม่ แต่ว่าย้ำเกมเพลย์และก็การแก้ปัญหา ผ่านแบบอย่างการเล่นที่มาแบบ 2 มิติ ทำให้มีการสร้างเกมแนวทางแบบนี้ออกมาเยอะแยะจนกระทั่งเล่นเกือบจะไม่ทัน แต่ว่าสำหรับคนต้องการเล่นต้นฉบับจริงๆของแนวนี้ก็จำต้องไปพบภาคเก่าๆมาเล่น แม้กระนั้นปัจจุบันนินเทนโดได้เปิดตัว Metroid Dread หนึ่งในแหล่งกำเนิดแนว Metroidvania กลับมาอีกทีบน Nintendo Switchโดย Metroid Dread เป็นการสืบต่อเรื่องราวของซีรีส์ 2 มิติของ Metroid ซึ่งอ่อนวราวจะกำเนิดต่อจากภาค Metroid Fusion ที่ผู้แสดงนำ Samus ได้ออกตรวจดาวพระเคราะห์ ZDR แล้วก็ได้เจอกันอันตรายใหม่ที่ไม่ได้นึกฝัน ซึ่ง Metroid Dread จะได้โอกาสมงาน MercurySteam ที่เคยสร้าง Metroid: Samus Returns บน 3DS ที่ออกในปี 2017 มาสืบต่อการบรรลุผลร่วมกับ Nintendo EPD จัดว่าสร้างความสงสัยพอควรเพราะว่าประกาศเปิดตัวแล้ววางจำหน่ายเลยด้านในไม่กี่เดือน
กราฟิกไม่สะดุดตาแม้กระนั้นลื่นไหลภาพใน Metroid Dread บางทีก็อาจจะมิได้เด่นหมดตัว
ด้วยเหตุว่ายังมิได้ใส่เนื้อหาเข้าไปในหลายส่วนแม้ว่าลักษณะของเกมสามารถจัดหนักได้มากกว่านี้เนื่องจากเป็น 2 มิติแม้กระนั้นก็นับว่าทำเป็นระดับค่อนข้างไม่ดีพอสมควรมีคัตซีนที่มีคุณภาพ การนำเสนอมีการใส่มุมมองแปลกใหม่แล้วก็ปรับให้ตลอดกับเกมเพลย์ 2D อย่างพอดี แถมยังมีความลื่นไถลไหลไม่มีสะดุดบวกกับความเร็วของการเล่นที่สูงพอใช้ แม้กระนั้นก็ไม่มีอาการกระตุกแถมเวลาโหลดยังไม่นานด้วย จัดว่าสำหรับสเปกของ Nintendo Switch แล้วนับว่าก็ดีแม้กระนั้นยังไม่สุดเพียงเท่านั้นส่วนเพลงประกอบนับว่ายังคงสะดุดตา มาแนวภาพยนตร์อวกาศที่มีเพลงธีมที่นานัปการ เนื่องจากในฉากไล่ล่าที่ตื่นเต้นมันก็มีดนตรีที่ตื่นเต้น ส่วนเมื่อตัดเข้าเกมเพลย์ที่จำเป็นต้องย้ำหลีกหรือมีฉากที่มองลึกลับก็มีการใส่ธีมที่มองน่าขนลุกเข้ามา และก็มีเพลงธีมของซีรีส์ Metroid เข้ามาด้วย ถึงแม้บางครั้งก็อาจจะมิได้ติดหูพอๆกับเกมอื่นของนินเทนโด แต่ว่าโดยรวมแล้วมันมีคุณภาพสูงสมกับการเป็นซีรีส์แถวหน้าของนินเทนโดเช่นเดียวกัน จัดว่าพอดีดีแม้ว่าจะมีเล็กน้อยจะมองเรียบไปหน่อยก็ตามแบบการเล่น Metroidvania ที่พอดีที่สุดเกมเพลย์ที่ยังคงมาวิถีทาง Metroidvania แบบ 2 มิติมุมมองข้างๆที่มองเข้าใจง่าย ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักล่าเงินรางวัลสาว Samus Aran ที่มีอาวุธหลักเป็นปืนแสงสว่างที่ติดอยู่กับมือ แล้วก็จำเป็นต้องออกตรวจฉากที่เป็นแบ่งได้เป็นห้องที่มีความมากมายหลากหลายเนื่องจากว่านิดหน่อยก็กว้างมากมาย แม้กระนั้นบางฉากเน้นย้ำความสลับซับซ้อน ที่ภาคนี้ทำออกมาก้าวหน้าแบบยอดเยี่ยม หากว่าต้นแบบการเล่นจะมิได้สดใหม่ แม้กระนั้นไอเดียสำหรับในการวางแบบฉากแนวตรวจยังคงทำออกมาได้เยี่ยมที่สุดไม่เสียชื่อเสียงต้นฉบับของเกมแนวนี้