จากที่เล่นจนถึงจบ ก็พูดได้ว่าเรื่องราวก็เขียนออกมาได้บันเทิงใจดี 

แม้กระนั้นเรื่องราวสำคัญๆตัวเกมจะย้ำไปทางการดำเนินชีวิตของคนรุ่นเดี๋ยวนี้มากยิ่งกว่า รีวิวเกมส์มาใหม่ (Millennial รวมทั้ง Gen Z) ไม่ว่าจะคือปัญหาขาดเงินซื้อบ้านเลยจำเป็นต้องแชร์หอกับเพื่อนพ้องร่วมโชคชะตา, จำต้องยอมดำเนินการห่วยแตกๆเพื่อใช้หนี้มหาวิทยาลัย แถมยังจำต้องยอมตนเองให้กับหัวหน้าแสนชั่วช้าเพื่อไม่ให้ตนเองไม่มีงานทำซึ่งถึงจะเขียนออกมาได้สนุกสนานก็ตาม แม้กระนั้นก็มองขัดกับภาพลักษณ์ประจำของแฟรนไชส์ที่ย้ำแนว Work Hard กับกิจกรรมผู้กระทำผิดกฎหมาย รวมทั้ง Play Hard ในแบบ ‘โหดเหี้ยมมันฮา’ อย่างยิ่ง เนื่องจากในฉบับรีบูตกลุ่มของพวกเราปราศจากความโหดเหี้ยมเลยมีแต่ว่าฮา แถมตัวนำพวกเราถึงจะมุทะลุก็ตาม แม้กระนั้นก็มีนิสัยเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แล้วก็ปฏิบัติตนอารมณ์ขันดังเด็กที่ต้องการสนุกสนานไม่สิ้นสุดเอาจริงเอาจังๆก็ไม่ใช่เรื่องห่วยแตก แม้กระนั้นอย่างที่กล่าวไปว่ามันมองขัดกับภาพลักษณ์ของเกม เลยไม่ประหลาดใจว่าเพราะเหตุไรแฟนคลับSaints Row ถึงไม่ค่อยประทับใจกับผู้แสดงเท่าไรนัก ส่วนตัวคิดว่าถ้าเกิดทางคณะทำงานนำคอนเซ็ปต์นี้ไปทำเป็นเรื่องราวให้กับเกมใหม่นอกแฟรนไชส์ Saints Row น่าจะเป็นไอเดียที่ดีมากกว่านะครับGameplayเริ่มจากระบบการผลิตนักแสดง ในส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่บันเทิงใจที่สุดของเกมแล้ว เนื่องจากว่าผู้เล่นสามารถปรับส่วนต่างๆของนักแสดงได้ตามที่ใจต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสีผิวสุดหลุดโลกที่เลือกได้จากวงล้อสี RGB พร้อมด้วยตัวปรับความวาวของผิวให้ดูเหมือนกับว่ากับมนุษย์ หรือ ปรับโครงหน้าให้มองไม่ถูกมนุษย์มนาดังที่ตามพวกเราอยาก

ซึ่งจากที่ผมเล่นเองก็ออกจะใช้เวลาไปกับโหมดนี้เยอะพอควร 

เนื่องจากว่าธรรมดาเป็นคนถูกใจสร้างฐานะละครน่ารักน่าเอ็นดูๆถ้าในเกมมีโหมดก่อร่างสร้างตัวละครให้ แต่ว่ากว่าจะปรับได้ขนาดนี้ก็พูดได้ว่ายากพอควร เพราะว่า Preset ที่เกมมีให้โดยมากจะย้ำไปหน้าชั่วร้ายๆมากยิ่งกว่าหน้างามๆขอรับในส่วนของเกมเพลย์หลัก ทำออกมาได้สนุกสนานดังภาคก่อนๆรวมทั้งมองไม่ค่อยมีอะไรไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย ภายหลังจากผมได้กลับไปทดลองเล่น Saint Row The Third มองอีกครั้งข้างหลังจบเกม ก็พอเพียงพูดได้ว่าสิ่งที่เพิ่มมาในเกมเพลย์ภาคนี้ ผู้เล่นสามารถไต่ขึ้นหลังคารถยนต์เพื่อใช้ปืนขนาดใหญ่ยิงศัตรู, Perks แล้วก็สกิลของนักแสดง, พร้อมทั้งโชว์เส้นเลือดของศัตรูและก็รถยนต์ของพวกเขาคล้ายกับ Farcry 6 ครับผมในส่วนของภารกิจต่างๆโดยมากก็จะเน้นย้ำไปแนวยิงแล้วก็พังทลายฐานของศัตรูเป็นซะส่วนมาก เหมาะกับผู้เล่นที่ถูกใจเกมแนว Shoot’em up ระบายอารมณ์ แต่ว่าสำหรับคนไหนกันแน่ที่ถูกใจความมากมายหลายหรืออะไรใหม่ๆจากแฟรนไชส์ ก็พอเพียงกล่าวได้ว่าไม่น่าจะพึงพอใจกับเกมเพลย์สักเท่าไหร่หากแม้ตัวเกมจะมี Side Quest นานัปการให้ทำก็ตามอย่างโหมด Insurance ที่ผู้เล่นสามารถโยนตนเองให้รถชนลอยไปอวกาศเพื่อทุจริตรับรอง (คล้ายกับ Saints Row ภาคก่อนๆ) ก็ตาม แต่ว่าจากที่เล่นภารกิจ 70% อย่างไรก็ย้ำยิงระห่ำแบบเดียวกันหมด